อัพเดท 15 ที่เที่ยวญี่ปุ่น ยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด [2024]

ที่เที่ยวญี่ปุ่น ที่ห้ามพลาด
Share this content

ญี่ปุ่น ประเทศเกาะที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออก ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 4 เกาะ คือ ฮนชู ฮอกไกโด คิวชู และชิโกกุ ล้อมรอบด้วยทะเลญี่ปุ่น ทะเลโอค็อตสค์ ทะเลญี่ปุ่นตะวันออก และมหาสมุทรแปซิฟิก ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน เต็มไปด้วยวัดวาอาราม ศาลเจ้า สถาปัตยกรรมโบราณ และประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น พิธีชงชา การแต่งกิโมโน ศิลปะการต่อสู้ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย ผู้คนมีความตื่นตัวและกระตือรือร้น ส่งผลให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น วัดอาซากุสะ ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ ปราสาทฮิเมจิ เมืองเกียวโต สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสมัยใหม่ เช่น ย่านชิบูย่า ย่านอากิฮาบาระ ย่านโอไดบะ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเสน่ห์และน่าสนใจในทุกด้าน ไม่ว่าคุณจะสนใจในด้านใด ญี่ปุ่นก็พร้อมมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประทับใจไม่รู้ลืม

01

 ภูเขาไฟฟูจิ
(Mt. Fuji)

ภูเขาไฟฟูจิ เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ภูเขาไฟฟูจิเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ภูเขาไฟฟูจิมีรูปร่างเป็นกรวยที่สมบูรณ์แบบ ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี ภูเขาไฟแห่งนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟหลายครั้ง ครั้งแรกเมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อน และครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 300 ปีก่อน ภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมวิวทิวทัศน์ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากหลายสถานที่ในญี่ปุ่น เช่น ทะเลสาบคาวากูชิโกะ ทะเลสาบยามานากะ เมืองฮาโกเน่ และเมืองคาวากุจิโกะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) ภูเขาไฟฟูจิจะปกคลุมไปด้วยดอกซากุระ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) ภูเขาไฟฟูจิจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเหลือง วิธีเดินทางหลายวิธีไปยังภูเขาไฟฟูจิ วิธีที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางโดยรถไฟ รถไฟ JR สาย Fujikyuko วิ่งจากสถานีชินจูกุในเมืองโตเกียวไปยังสถานี Kawaguchiko ซึ่งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง


ที่อยู่ : Kitayama, ฟุจิโนะมิยะ จังหวัดชิซุโอะกะ 418-0112 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

02

 หมู่บ้านโบราณชิราคาวะโกะ
(Shirakawa-go)

หมู่บ้านโบราณชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go) ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995 ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวนาเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 250 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบ กัชโชสึคุริ (Gassho-zukuri) หลังคาทรงแหลมสูงชัน ลาดลงด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ทำมุม 60 องศา คำว่า “กัชโช” แปลว่า “พนมมือ” คล้ายกับรูปทรงของหลังคาบ้านนั่นเอง เป็นภูมิปัญญาการสร้างบ้านของคนสมัยก่อนเพื่อให้หิมะและน้ำฝนที่ตกลงมาไหลลงสู่พื้นด้านล่าง หมู่บ้านชิราคาวะโกะตั้งอยู่ในหุบเขาลึก จึงไม่มีทางรถไฟเข้าถึง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปหมู่บ้านแห่งนี้ได้ 2 วิธี คือ รถบัส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที จากสถานี Takayamaหมู่บ้านโบราณชิราคาวะโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครที่ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่นี่เป็นสถานที่ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นในอดีตได้เป็นอย่างดี บรรยากาศของหมู่บ้านที่เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม จะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยายเลยทีเดียว ยิ่่งช่วงฤดูหนาวอากาศหนาวมาก หิมมะตกลงมาขาวโพลนปกคลุมทุกพื้นที่จึงเป็นภาพที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมคววามสวยงามของหมู่บ้านโบราณชิราคาวะโกะแห่งนี้อย่างมากมาย


ที่อยู่ : Ogimachi, Shirakawa, Ono District, Gifu 501-5627 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

03

 สวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์
(Tokyo Disneyland)

สวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Disneyland) สวนสนุกระดับโลก เป็นสวนสนุกของดิสนีย์แห่งแรกที่อยู่ภายนอกสหรัฐอเมริกาและเป็นแห่งแรกของทวีปเอเชีย เปิดให้บริการในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1983 โดดเด่นด้วยปราสาทของเจ้าหญิงที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของดิสนีย์ซึ่งแต่ที่จะแตกต่างกันไป ที่โตเกียวจะเป็นปราสาทของเจ้าหญิงซินเดอเรลล่า สวนสนุกโตเกียวดิสนีย์ถือเป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ใครมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องมาเที่ยวสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์แห่งนี้ เหมาะมากสำหรับครอบครัวพาเด็กๆมาท่องเที่ยวสนุกไปกับจินตานาการในโลกเทพนิยายและเพลิดเพลินกับเครื่องเล่นและการแสดงต่างๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม ให้คุณสนุกสนานทั้งวันในสวนสนุก โดยที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์แบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน อาทิ World Bazaar, Adventureland ,Westernland, Critter Country , Fantasyland,Toontown เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีและมีการตกแต่งที่สวยงามและขบวนพาเหรดตามเทศกาลต่างๆอีกด้วย ใครจะไปเที่ยวแนะนำให้จองตั๋วผ่านหน้าเวบของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ได้เลยพอมาถึงก็สามารถสแกน QR code ผ่านเข้าประตูได้เลย การเดินทางมายังสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ สามารถขึ้นรถไฟ JR สาย JR Keiyo Line ลงที่สถานี Maihama Station , รถไฟ Disney Resort Line ลงที่สถานี Maihama Station หรือ รถบัสสาย 811, 23 ลงที่ป้าย Maihama Station


ที่อยู่ : 1-1 Maihama, Urayasu, Chiba 279-0031 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

04

 วัดอาซากุสะ
(Asakusa Kannon Temple)

วัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple) เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เขตไทโต โตเกียว สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 628 โดยสองพี่น้องชาวประมงที่พบรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม (Kannon) ลอยมาติดอยู่ที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างวัดขึ้นเพื่อประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เป็นที่เคารพสักการะของชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ภายในวัดมีอาคารต่างๆ มากมาย เช่น ศาลเจ้าหลัก ศาลเจ้าเล็ก สวนญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์ ประตูคามินาริมง (Kaminarimon Gate) เป็นประตูทางเข้าหลักของวัด ตรงซุ้มประตูแห่งนี้มีโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของวัดเป็นไฮไลท์ที่ใครมาต้องถ่ายรูป เเละยังมีทริคดีๆในการไหว้ที่วัดนี้ตรง กระถางธูป หน้าวัด จะมีความเชื่อว่าถ้ากวักเอาควันธูปเข้าหาตัวจะนำความโชคดีมาให้เราค่ะ และนอกจากนี้ยังมี ถนนนากามิเสะ (Nakamise Street) เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่ทอดยาวจากประตูคามินาริมงไปยังวัดอาซากุสะ ถนนแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย การเดินทางไปยังวัดวัดอาซากุสะ สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้ รถไฟ Tokyo Metro สาย Ginza Line ลงที่สถานี Asakusa , รถไฟ Toei Subway สาย Asakusa Line ลงที่สถานี Asakusa หรือ รถบัสสาย 12 , 23  ลงที่ป้าย Asakusa


ที่อยู่ : 2 Chome-3-1 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

05

 ย่านชินจูกุ
(Shinjuku)

ย่านชินจูกุ (Shinjuku) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นย่านที่มีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยสีสัน เต็มไปด้วยความหลากหลาย เป็นแหล่งรวมความบันเทิง ช้อปปิ้ง และวัฒนธรรมที่หลากหลายย่านชินจูกุ แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ ชินจูกุฝั่งตะวันออก (Eastern Shinjuku) และชินจูกุฝั่งตะวันตก (Western Shinjuku) ชินจูกุเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของโตเกียว มีสถานีรถไฟขนาดใหญ่ถึง 6 สถานี ได้แก่ สถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) สถานีชินจูกุเกียวเอมเม (Shinjuku-gyoemmae Station) สถานีนิชิชินจูกุ (Nishi-Shinjuku Station) สถานีชินจูกุซันโจเม (Shinjuku-sanchōme Station) และสถานีชินจูกุนิชิ (Shinjuku-nishi Station) รถไฟสายต่างๆ มากมายวิ่งผ่านสถานีเหล่านี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากสนามบินนาริตะ (Narita International Airport) หรือสนามบินฮาเนดะ (Haneda International Airport) ไปยังย่านชินจูกุได้อย่างรวดเร็วด้วยรถไฟชินคันเซน (Shinkansen) หรือรถไฟ JR สาย Yamanote  ย่านชินจูกุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยสีสันและความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาทั้งวันในการสำรวจย่านชินจูกุได้อย่างเพลิดเพลิน


ที่อยู่ : ชินจุกุ โตเกียว 160-0022 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

06

 เมืองโอกินาวา
(Okinawa)

เมืองโอกินาวา เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของญี่ปุ่น อยู่ห่างจากเกาะฮอกไกโดไปทางใต้ประมาณ 1,600 กิโลเมตร เมืองโอกินาวาเป็นเมืองที่ขึ้นว่า ทะเลสวย น้ำทะเลสีฟ้าใส ชายหาดที่ขาวละเอียด และวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและวัฒนธรรมของเกาะริวกิว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโอกินาวา ปราสาทชูริ (Shuri Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1429 โดยกษัตริย์ชูเซน ปราสาทแห่งนี้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก สวนสาธารณะโอกินาวา ชูเร (Okinawa Shuri Park) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองนาฮะ เมืองหลวงของโอกินาวา สวนสาธารณะแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาและทะเล อควาเรียมโอกินาวา (Okinawa Churaumi Aquarium) เป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถชมสัตว์ทะเลต่างๆ เช่น ฉลามวาฬ ฉลามวาฬหลังดำ และฉลามหัวบาตร เป็นต้น  การเดินทางมายังเมืองโอกินาวาสามารถทำได้โดย สายการบิน Japan Airlines (JAL) มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินนาริตะ (NRT) และสนามบินฮาเนดะ (HND) ไปยังสนามบินนาฮา (OKA) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง และ มีเรือเฟอร์รี่ให้บริการจากท่าเรือโยโกฮามะ (Yokohama Port) ไปยังท่าเรือนาฮา (Naha Port) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 ชั่วโมง


ที่อยู่ : จังหวัดโอะกินะวะ ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

07

 ย่านโดทงโบริ
(Dotonbori)

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นย่านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความคึกคักและมีชีวิตชีวา เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านค้า และสถานบันเทิงต่างๆ ที่หลากหลาย โดทงโบริฝั่งตะวันออก เป็นที่ตั้งของป้ายกูลิโกะแมน (Glico Man) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของย่านโดทงโบริ ถือเป็นเเลนด์มาร์คเลยก็ว่าได้ที่นักท่องเที่ยวมาต้องถ่ายรูปกับป้ายนี้ บริเวณรอบป้ายกูลิโกะแมนเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านค้ามากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายประเภท เช่น อาหารทะเลสดๆ ทาโกยากิ คุชิคัตสึ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากนี้ ย่านโดทงโบริฝั่งตะวันออกยังเป็นที่ตั้งของโรงละครคาบูกิ ย่านบันเทิงยามค่ำคืน และย่านขายของมือสอง โดทงโบริฝั่งตะวันตก เป็นที่ตั้งของถนนโคจิมา (Kojima Street) ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และอาหารท้องถิ่น นอกจากนี้ ย่านโดทงโบริฝั่งตะวันตกยังเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะโดทงโบริ (Dotonbori Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโอซาก้า นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติ  ย่านโดทงโบริ ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟชินไซบาชิ (Shinsaibashi Station) สามารถเดินทางได้โดยรถไฟสาย Midosuji Line หรือรถไฟสาย Keihan Main Line หรือ รถบัสสาย 10,16 ลงที่ป้าย Shinsaibashi


ที่อยู่ : Dotonbori, Chuo Ward, Osaka, 542-0071 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

08

 ย่านชิบูย่า
(Shibuya)

ย่านชิบูย่า (Shibuya) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นย่านที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของห้าแยกชิบูย่า ซึ่งเป็นทางม้าลายที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวสามารถชมความคึกคักของการจราจรและการข้ามถนนพร้อมกันของผู้คนนับพันได้ทุกวัน ย่านชิบูย่าเป็นย่านที่มีสีสันและเต็มไปด้วยความหลากหลาย เป็นแหล่งรวมแฟชั่น ช้อปปิ้ง ความบันเทิง และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ย่านชิบูย่ามีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมาย เช่น ชิบูย่า 109 (Shibuya 109) ชิบูย่า ฮิคาริเอะ (Shibuya Hikarie) และ พาร์ค ชิบูย่า (Parc Shibuya) นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารมากมายบนถนนสายหลัก เช่น เซ็นเตอร์ไก (Center Gai) และ ฮาจิโกะโดริ (Hachiko Dori) การเดินทางไปยังย่านชิบูย่าสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้ รถไฟ JR สาย Yamanote Line ลงที่สถานี Shibuya ,รถไฟ Tokyo Metro สาย Ginza Line  ลงที่สถานี Shibuya ,รถไฟ Tokyo Metro สาย Hanzomon Line  ลงที่สถานี Shibuya รถบัสสาย 21,23, 24 ลงที่ป้าย Shibuya


ที่อยู่ : ชิบุยะ โตเกียว 150-0002 japan
แผนที่ : google map

09

 ตลาดปลาซึกิจิ
(Tsukiji Fish market)

ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish market ) เป็นหนึ่งในตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการซื้อขายอาหารทะเลมากกว่า 2,000 ตันต่อวัน จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโตเกียวที่นักท่องเที่ยวชอบมาลิ้มรสอาหารทะเลสดๆกันที่นี่ เพราะแหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักชิม ใครที่ชื่นชอบอาหารทะเลบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ตลาดปลาซึกิจิเปิดตั้งแต่เช้าตรู่ ตลาดแบ่งเป็น 2 โซน มีทั้งตลาดขายส่งและขายปลีก บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความคึกคัก ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ พ่อค้าแม่ค้ากำลังวุ่นวายกับการเตรียมอาหารทะเลสดๆ เป็นบรรยากาศที่ตื่นตาตื่นใจและน่าตื่นเต้นมาก ที่นี่มีอาหารทะเลให้เลือกมากมาย ทั้งปลาสด หอยสด กุ้งสด ปูสด ไข่ปลาต่างๆ ฯลฯ  ร้านด้านนอกเป็นร้านขายปลีกจะมีให้ชิมซูชิ ซาซิมิ ปลาที่นี่จะค่อนข้างสด อร่อย และราคาไม่แพง ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ติดใจและแวะเวียนกลับมา และยังมีพวกของแห้ง มีดแร่ปลา และอาหารอื่นๆอีกหลายอย่างให้เลือกซื้อ ตลาดปลาซึกิจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด


ที่อยู่ :4 Chome-13 Tsukiji, Chuo City, Tokyo 104-0045 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

10

วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง
(Kinkakuji Temple)

วัดคินคะคุจิ หรือวัดทอง ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดพุทธนิกายเซ็น สำนักรินไซ เป็นที่รู้จักจากศาลาทองคำอันงดงามที่ตั้งตระหง่านกลางสระน้ำ วัดคินคะคุจิ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1397 เพื่อเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิสุ หลังจากสละราชสมบัติ ศาลาทองคำที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลังแล้วปิดทับด้วยทองคำเปลวเป็นชั้นๆ นั้น เดิมทีมีทั้งหมด 3 ชั้น แต่ถูกไฟไหม้ไปในปี ค.ศ. 1950 ปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในแบบจำลองเดิม ศาลาทองคำเป็นจุดเด่นของวัดคินคะคุจิ สะท้อนเงาลงบนผิวน้ำของสระน้ำทำให้เกิดภาพสะท้อนที่สวยงาม ศาลาทองคำแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994 ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะสวยมากเป็นพิเศษการเดินทางไปยังวัดแห่งนี้สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่  รถไฟ JR สาย Sagano ลงที่สถานี Kitanohakubaicho แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที หรือ รถไฟ Keifuku Arashiyama Line ลงที่สถานี Kitanohakubaicho 


ที่อยู่ : 1 Kinkakujicho, Kita Ward, Kyoto, 603-8361 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

11

 สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน
(Universal Studios Japan)

สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ 7 แห่งทั่วโลก และเป็นสวนสนุกแห่งแรกในเอเชีย สวนสนุกแห่งนี้เปิดทำการในปี พ.ศ. 2544 และได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน แบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่ โซน Hollywood โซนแห่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดชื่อดัง เช่น โซน Wizarding World of Harry Potter, Jurassic Park, Terminator 2 3D Battle Across Time, โซนNew York โซนแห่งเมืองนิวยอร์ก เช่น โซน Despicable Me Minion Mayhem, The Wizarding World of Harry Potter, Fast & Furious – Supercharged , โซน San Francisco โซนแห่งเมืองซานฟรานซิสโก เช่น โซน The Amazing Adventures of Spider-Man, Jurassic Park, Transformers – The Ride,โซน WaterWorld โซนแห่งภาพยนตร์ WaterWorld จำลองฉากจากภาพยนตร์ได้อย่างสมจริง ,โซนUniversal Wonderland โซนสำหรับเด็กๆ เช่น โซน Hello Kitty, Snoopy, Sesame Street,โซน Minion Park โซนแห่งเหล่ามินเนี่ยนตัวเหลืองสุดป่วน, โซน Super Nintendo World โซนแห่งซูเปอร์มาริโอ โซนใหม่ล่าสุดของสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน เครื่องเล่นในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน มีหลายประเภท ทั้งเครื่องเล่นที่เน้นความตื่นเต้นเร้าใจ  นอกจากเครื่องเล่นแล้ว สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน ยังมีการแสดงต่างๆ มากมาย เช่น การแสดงโชว์คาวบอย, การแสดงโชว์ฮีโร่, การแสดงโชว์ยูนิคอร์น และการแสดงโชว์จากซูเปอร์มาริโอ การเดินทางมายังที่นี่คือขึ้น  รถไฟ JR สาย Osaka Loop Line ลงที่สถานี Nishikujo แล้วต่อรถไฟสาย JR Yumesaki ไปลงที่สถานี Universal City หรือรถไฟ Nankai Main Line ลงที่สถานี Namba แล้วต่อรถไฟสาย Nankai Namboku Line ไปลงที่สถานี Universal City


ที่อยู่ : 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

12

 ย่านฮาราจุกุ
(Harajuku)

ดินแดนแห่งแฟชั่นและวัฒนธรรมป๊อปฮาราจูกุเป็นย่านใจกลางเมืองโตเกียวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะ “ดินแดนแห่งแฟชั่นและวัฒนธรรมป๊อป” ย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ฮาราจูกุเป็นสวรรค์ของคนรักแฟชั่น ที่นี่มีร้านค้าเสื้อผ้าหลากสไตล์ให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นแนวสตรีท แฟชั่นแนวพังค์ แฟชั่นแนวคอสเพลย์ หรือแฟชั่นแนวหวานๆ น่ารักๆ ก็มีให้เลือกกันแบบจุใจ ฮาราจูกุยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมป๊อปญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน อะนิเมะ มังงะ หรือวิดีโอเกม ที่นี่มีร้านค้าและร้านอาหารมากมายที่จำหน่ายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมป๊อปเหล่านี้ เป็นย่านที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา ที่นี่มีสิ่งต่างๆ มากมายให้ทำและดู ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง ชมแฟชั่น สัมผัสวัฒนธรรมป๊อป หรือเพียงแค่เดินเล่นและถ่ายรูปเล่น ฮาราจูกุก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนโตเกียว ย่านฮาราจุกุตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น การเดินทางไปยังย่านฮาราจุกุสามารถทำได้โดยรถไฟ ดังนี้รถไฟ JR สายยามาโนเตะ ลงที่สถานีฮาราจุกุ (Harajuku Station) , รถไฟ Tokyo Metro สายจิโยดะ ลงที่สถานีเมจิจินกูมาเอะ (Meiji Jingu-mae Station) นอกจากนี้ ยังมีรถบัสให้บริการในย่านฮาราจุกุอีกด้วย โดยรถบัสสาย 206 วิ่งระหว่างสถานีฮาราจุกุและสถานีเมจิจินกูมาเอะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที


ที่อยู่ : Harajuku, Jingumae, ชิบุยะ โตเกียว 150-0001 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

13

ทุ่งลาเวนเดอร์ ฟาร์มโทมิตะ
(Tomita Farm)

ทุ่งลาเวนเดอร์ ฟาร์มโทมิตะ สวรรค์บนดินของเหล่าคนรักดอกไม้ ฮอกไกโด ดินแดนแห่งขุนเขา ทะเลสาบ และดอกไม้นานาพันธุ์ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด ก็คือ ฟาร์มโทมิตะ ฟาร์มดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ด้วยทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงสดที่กว้างใหญ่ไพศาล ฟาร์มโทมิตะในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปภายในฟาร์มทุ่งลาเวนเดอร์ที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาช่างงดงามราวกับภาพวาด ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่ง ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ ราวกับสวรรค์บนดินที่แท้จริง นอกจากทุ่งลาเวนเดอร์แล้ว ฟาร์มโทมิตะยังมีดอกไม้นานาพันธุ์ให้ได้ชมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกคอสมอส ทุ่งดอกทานตะวัน ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลือง ทุ่งดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า และอื่นๆ อีกมากมายนอกจากความสวยงามของดอกไม้แล้ว ฟาร์มโทมิตะยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป การทำสบู่ลาเวนเดอร์ การทำน้ำหอมลาเวนเดอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ และยังมีร้านกาแฟอีกด้วย ฟาร์มโทมิตะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกลาเวนเดอร์คือในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นสิงหหาคม วิธีการเดินทางมาฟาร์มโทมิตะ เดินทางจากเมืองซัปโปโรสามารถนั่งรถไฟ JR สายหลักฮอกไกโดไปลงที่สถานีฟุราโนะ จากนั้นต่อรถบัสสาย 21ไปลงที่ป้ายฟาร์มโทมิตะ ค่าเข้าชมฟาร์มโทมิตะผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 400 เยน


ที่อยู่ : 15号 Kisenkita, Nakafurano, Sorachi District, Hokkaido 071-0704 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

14

ปราสาทฮิเมจิ
(Himeji Castle)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นปราสาทฮิเมจิสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1346 โดยตระกูลฮิเมจิ เดิมทีมีชื่อว่า “ปราสาทมัตสึยามะ” ต่อมาในปี ค.ศ. 1580 โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ได้ปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ปราสาทฮิเมจิ” ปราสาทแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดดเด่นด้วยสีขาวของปูนฉาบภายนอก จึงทำให้ได้รับฉายาว่า “ปราสาทนกกระเรียน” ปราสาทฮิเมจิได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรตระการตาและสภาพที่ยังสมบูรณ์แบบปราสาทแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก กิจกรรมสำหรับที่นี่มีตั้งแต่ ขึ้นชมหอคอยหลัก หอคอยหลักของปราสาทฮิเมจิมีความสูงถึง 46 เมตร ขึ้นไปชมหอคอยหลักแห่งนี้จะได้ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองฮิเมจิและภูเขาได้อย่างชัดเจน ชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี ปราสาทฮิเมจิตั้งอยู่ในสวนโคโคะเอ็น ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนเป็นสีสันสวยงาม การเดินทาง ปราสาทฮิเมจิตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Himeji Station ประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถเดินหรือนั่งรถบัสประจำทางสาย 6, 7 หรือ 8 ไปลงที่ป้าย Himeji Castle 


ที่อยู่ : 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map

15

 ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริไทฉะ
(Fushimi Inari Taisha) 

ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริไทฉะ ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักจากทางเดินที่มีเสาโทริอิสีแดงสดนับพันต้นเรียงรายเป็นแนวยาวขึ้นไปยังภูเขาอินาริ ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริไทฉะ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าอินาริ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งข้าวและการค้าที่รุ่งเรือง เชื่อกันว่าเทพเจ้าอินาริมีรูปลักษณ์เป็นจิ้งจอก ดังนั้นจึงมีรูปปั้นจิ้งจอกประดับอยู่ทั่วศาลเจ้า ทางเดินที่มีเสาโทริอิสีแดงสดเป็นจุดเด่นของศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริไทฉะ เสาโทริอิเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากผู้ศรัทธาจากทั่วทุกมุมโลก เชื่อกันว่าหากเดินลอดใต้เสาโทริอิ 1,000 ต้น จะทำให้สมปรารถนา ทางเดินที่มีเสาโทริอิเริ่มต้นจากศาลเจ้าด้านล่างและทอดยาวขึ้นไปยังยอดเขาอินาริ ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากทางเดินที่มีเสาโทริอิแล้ว ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริไทฉะยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ศาลเจ้าหลัก พิพิธภัณฑ์อินาริ สวนส้ม และสวนดอกไม้ การเดินทางไปยังศาลเจ้าแห่งนี้สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้ รถไฟ JR สาย Nara: ลงที่สถานี Inari แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 นาที รถไฟ Keihan Main Line ลงที่สถานี Fushimi-Inari แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที หรือ รถบัสสาย 206 ลงที่ป้าย Fushimi Inari Taisha แล้วเดินต่ออีกประมาณ 1 นาที


ที่อยู่ : 68 Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi Ward, Kyoto, 612-0882 ญี่ปุ่น
แผนที่ : google map